หลังมื้อวันหวาน…ลองบ้วนปากดูไหม

เคยไหมเวลาที่เรารีบ ๆ หลังมื้ออาหาร หรือ มื้อหวานกับคนรัก ในเวลาที่เราต้องขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว เช็คความเรียบร้อย และทำความสะอาดช่องปากด้วย ?น้ำเปล่า? แต่จะดีกว่าไหมหากเราลองเสริมด้วย ?น้ำยาบ้วนปาก? มันอาจจะสะอาดกว่า สดชื่นกว่า และยังกลบกลิ่นปากได้ดีกว่า แต่เราต้องดูและเลือกชนิดของน้ำยาบ้วนปากให้ตรงกับสภาพช่องปากและการใช้งานด้วยนะ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้ดังนี้

. น้ำยาบ้วนปากทั่วไป (Cosmetic mouthwash) เป็นน้ำยาบ้วนปากเสริมสร้างความมั่นใจ ลมหายใจสดชื่นหรือกลบกลิ่นปาก มักมีแอลกอออล์อาจมีผลลดจุลินทรีย์ในช่องปากได้บ้างโดยน้ำมัน หอมระเหย

. น้ำยาบ้วนที่ใช้รักษาโรคในช่องปาก (Therapeutic Mouthwash) แบ่งย่อยได้ 4 ชนิด

เพื่อป้องกันฟันผุ ด้วยส่วนผสมของฟลูออไรด์ (Fluoride mouthwash) ไม่ผสมสารฆ่าเชื้อ มีโซเดียมฟลูออไรด์เข้มข้น 0.05% NaF (ทั่วไป) และ เข้มข้น 0.2% NaF (เฉพาะทันตแพทย์สั่ง)

เพื่อฆ่าเชื้อโรค ใช้น้ำยาบ้วนปากฆ่าเชื้อ (Antiseptic mouthwash) อาจจะมีหรือไม่มีแอลกอฮอล์ มีการใส่สารหรือยาบางประเภทเพื่อลดปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ในช่องปาก

เพื่อลดอาการเสียวฟัน ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีสาร เกลือโปแตสเซียม (Potassium salts) ช่วยบรรเทาอาการเสียวฟันได้ ส่วนน้ำยาบ้วนปากที่มีผลในการลดการสะสมของไบโอฟิลม์และหินน้ำลาย เช่น ไอออนของสังกะสี (Zinc ion) โดยได้จากซิงค์คลอไรด์(Zinc chloride) ซิงค์ซิเตรต (Zinc citrate) และ ซิงค์แลคเตต (Zinc lactate) หรือสารพวกไพโรฟอสเฟต (pyrophosphate) ซึ่งสามารถลดกลิ่นปาก ลดการก่อตัว ของหินน้ำลาย และเป็นสารต่อต้าแบคทีเรียที่ช่วยควบคุมคราบต่างๆ ที่มาติดฟันจนดูเหมือนว่าช่วย ทำให้ฟันขาวขึ้น

อื่น ๆ เช่น น้ำยาบ้วนปากจากธรรมชาติ (Natural Mouthwash) คือ สารสกัดสมุนไพรและน้ำมันหอมระเหยหลายตัว มีฤทธิ์เพื่อยับยั้งแบคทีเรียและจุลชีพอื่นด้วย แถมยังมีความชุ่มชื้นช่วยลดอาการปากแห้งได้ เป็นทางเลือกยอดนิยมแทน น้ำยาบ้วนปากไร้แอลกอฮอล์

ทริคเล็กน้อย กับ การใช้น้ำยาบ้วนปากให้ได้ผลดีที่ คือ หลังการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟัน ทำความสะอาดช่องปากเรียบร้อยแล้ว

 

ด้วยรักและห่วงใย อยากให้คนไทยรอบรู้เรื่องสุขภาพ และมีสุขภาพที่ดีได้ทุกวัยในทุกวัน จาก กรมอนามัย

ท่านสามารถ ติดตามสาระความรู้สุขภาพ เพิ่มเติมได้ที่

 

#กรมอนามัย #วันวาเลนไทน์ #สุขภาพช่องปาก #สุขภาพดีสร้างได้