คุณกำลังมองหาอะไร?

กา

การป้องกันตนเองจากภัยร้อน

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

01.03.2567
13
0
แชร์
01
มีนาคม
2567

“การป้องกันตนเองจากภัยร้อนทุกกลุ่มวัย”

แบ่งคำแนะนำออกเป็นกลุ่ม ดังนี้

1.คำแนะนำการป้องกันตนเองจากภัยร้อนสำหรับประชาชนทั่วไป

          - ดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆโดยไม่ต้องรอให้กระหายน้ำ

          - หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งช่วงอากาศร้อนจัด

          - หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง

          - สวมเสื้อผ้าสีอ่อน หลวม น้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี

          - สวมหมวกปีกกว้าง ใส่แว่นกันแดด กางร่วม ทาครีมกันแดดที่มีค่า  SPF 15 ขึ้นไป อย่างน้อย 30 นาที ก่อนออกจากบ้าน

          - สังเกตอาการตนเอง ดูแลกลุ่มเสี่ยงอย่างใกล้ชิดหากมีอาการหน้ามืด เวียนศรีษะ ปวดศรีษะ วิงเวียนศรีษะ หรือสับสน คลื่นไส้ และหายใจเร็วให้รีบแจ้งบุคคลใกล้ชิดทันที

          - หากมีเหตุฉุกเฉินให้รีบติดต่อสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุดหรือติดต่อสายด่วน 1669

 

2.คำแนะนำการป้องกันตนเองจากความร้อนสำหรับเด็กทารกและเด็กเล็ก

          - เด็กเล็กดูแลให้ดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆโดยไม่ต้องรอให้กระหายน้ำ เด็กทารกแรกเกิดถึง 6 เดือนให้ดื่มนมแม่อย่างเพียงพอ

          - หลีกเลี่ยงให้เด็กเล็กดื่มเครื่องดื่มเย็นๆและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากเกินไป

          - แต่งตัวให้เด็กทารกและเด็กเล็กด้วยเสื้อผ้าหลวมๆน้ำหนักเบา สีอ่อน

          - ดูแลให้เด็กทารกและเด็กเล็กอยู่ในบ้านพัก อาคาร หรือสถานที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ

          - หากไม่มีเครื่องปรับอากาศให้ปิดพัดลมห่างจากตัว อย่าหันพัดลมเป่ามาที่ตัวเด็กโดยตรง ให้เปิดพัดลมแบบส่าย เปิดหน้าต่าง เพื่อระบายอากาศที่ร้อน

          - เด็กเล็ก ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านให้สวมหมวก เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว กางร่มเพื่อป้องกันแสงแดด ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป อย่างน้อย 30 นาที ก่อนออกจากบ้าน

          - เด็ก 6 เดือนขึ้นไปอาจใช้ครีมกันแดดที่ทำจากสารประเภท Physical Sunscreen และปฏิบัติตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์

          - ห้ามปล่อยให้เด็กมารกและเด็กเล็กอยู่ในรถที่จอดตากแดดตามลำพังเด็ดขาด

          - หากมีเหตุฉุกเฉินให้รีบติดต่อสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุดหรือติดต่อสายด่วน 1669

 

3.คำแนะนำการป้องกันตนเองจากความร้อนสำหรับหญิงตั้งครรภ์

          - ดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆโดยไม่ต้องรอให้กระหายน้ำโดยเฉพาะคุณแม่ที่ให้นมลุกต่ำกว่า 6 เดือน

          - หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง

          - สวมเสื้อผ้าสีอ่อน หลวม น้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี

          - ควรอยู่ในบ้านพัก อาคาร สถานที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ หากไม่มีเครื่องปรับอากาศควรเปิดพัดลมแบบส่าย อย่าเป่าพัดลมเข้าโดยตรง และเปิดหน้าต่างระบายความร้อน

          - หากต้องออกกลางแจ้งสวมหมวกปีกกว้าง แว่นกันแดด กางร่ม ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป อย่างน้อย 30 นาทีก่อนออกจากบ้าน

          - ระมัดระวัง การรับประทานยาบางชนิดที่อาจส่งผลให้ร่างกายสุญเสียน้ำและเกลือแร่ได้ง่ายขึ้น เช่น ยาลดความดันโลหิต ยาแก้คัดจมูก ยาขับปัสสาวะ ยารักษาโรคจิตและจิตเวช เป็นต้น

          - หากมีอาการผิดปกติ เช่น หน้ามืด เวียนศรีษะ ปวดศรีษะ หรือสับสน คลื่นไส้ และหายใจเร็ว ให้รีบแจ้งบุคคลใกล้ชิดทันที หรือติดต่อ 1669

 

4.คำแนะนำการป้องกันตนเองจากความร้อนสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว

          - ดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆโดยไม่ต้องรอให้กระหายน้ำ

          - หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง

          - หากต้องออกกลางแจ้งสวมหมวกปีกกว้าง แว่นกันแดด กางร่ม ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป อย่างน้อย 30 นาทีก่อนออกจากบ้าน

          - เตรียมยาให้พร้อมหากเป้นผู้ป่วยติดเตียงควรดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ควรปล่อยให้อยู่ตามลำพัง

          - งดทำกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังมากและพักผ่อนให้เพียงพอ

          - สวมใส่เสื้อสีอ่อน หลวม น้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี

          - ควรอยู่ในบ้านพัก อาคาร หรือสถานที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ หากไม่มีเครื่องปรับอากาศควรเปิดพัดลมแบบส่าย อย่าเป่าพัดลมเข้าโดยตรง และเปิดหน้าต่างระบายความร้อน

          - ระมัดระวัง การรับประทานยาบางชนิดที่อาจส่งผลให้ร่างกายสุญเสียน้ำและเกลือแร่ได้ง่ายขึ้น เช่น ยาลดความดันโลหิต ยาแก้คัดจมูก ยาขับปัสสาวะ ยารักษาโรคจิตและจิตเวช เป็นต้น

          - หากมีอาการผิดปกติ เช่น หน้ามืด เวียนศรีษะ ปวดศรีษะ หรือสับสน คลื่นไส้ และหายใจเร็ว ให้รีบแจ้งบุคคลใกล้ชิดทันที หรือติดต่อ 1669

 

5.คำแนะนำการป้องกันตนเองจากความร้อนสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง

          - ดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ ไม่ต้องรอให้กระหายน้ำ ควรดื่มน้ำ 1 แก้ว ทุกๆ 15 - 20 นาที ระมัดระวังไม่ควรดื่มน้ำมากเกินไป ควรพกน้ำดื่มติดตัวตลอดเวลา

          - หากสูญเสียเหงื่อจากการออกกำลังกายมากควรดื่มเครื่องดื่มประเภทเกลือแร่เพื่อทดแทนการสูญเสียน้ำในร่างกาย

          - หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง

          - หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักติดต่อกันเป็นเวลลานานในช่วงที่อากาศร้อนจัด ควรออกกำลังกายในช่วงเช้าหรือเย็น หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรเตรียมความพร้อมร่างกาย เพื่อรับมือสภาพอากาศที่ร้อนจัดได้

          - ควรสวมใส่ชุดออกกำลังกายที่ระบายความร้อนได้ดี สวมหมวกบังแดด ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป อย่างน้อย 30 นาทีก่อนออกกำลังกายกลางแจ้ง

          - สังเกตอาการตัวเอง และผู้ร่วมออกกำลังกายหากมีอาการผิดปกติ เช่น หน้ามืด เวียนศรีษะ ปวดศรีษะ หรือสับสน คลื่นไส้ และหายใจเร็ว ให้รีบแจ้งผู้ดูแลสถานที่ออกกำลังกาย หรือผู้ใกล้ชิดทันที

          - หากมีเหตุฉุกเฉินให้รีบติดต่อสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุดหรือติดต่อสายด่วน 1669

 

6.คำแนะนำการป้องกันตนเองจากความร้อนสำหรับผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง

          - ระหว่างที่ทำงานควรดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆไม่ต้องรอให้กระหายน้ำ หากอากาศร้อนจัด ควรดื่มน้ำ 1 แก้ว ทุกๆ 15 – 20 นาที ระมัดระวังไม่ควรดื่มน้ำมากเกินไป และพกน้ำติดตัวตลอดเวลา

          - หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง

          - เปลี่ยนเวลาทำงาน หลีกเลี่ยงทำงานช่วงอากาศร้อนที่สุดของวัน (เวลา 11.00 – 15.00 น.) แบ่งระยะเวลาทำงานและช่วงเวลาพักผ่อนให้ทำงานสลับกันได้

          - สวมใส่ชุดทำงานที่ระบายความร้อนได้ดี สวมหมวกบังแดด ทาครีมกันแดดที่ที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป อย่างน้อย 30 นาทีก่อนออกนอกบ้าน

          - หากหยุดการทำงานกลางแจ้งไปนาน เมื่อกลับมาทำงานกลางแจ้งอีกครั้งควรเริ่มจากงานเบาๆ เพื่อให้ร่างกายมีเวลาปรับตัวกับสภาพอากาศร้อน

          - ควรสังเกตอาการตัวเอง และหมั่นสังเกตอาการผู้ร่วมงานหากมีอาการผิดปกติ เช่น ตะคริว ผดผื่น คลื่นไส้ ปวดศรีษะ อ่อนเพลีย ให้รีบแจ้งผู้ดูแล หัวหน้างาน หรือผู้ใกล้ชิดทันที่

          - ผู้ประกอบการควรอบรมพนักงานในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

          -  หากมีเหตุฉุกเฉินให้รีบติดต่อสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุดหรือติดต่อสายด่วน 1669

 

7.คำแนะนำการป้องกันตยเองจากความร้อนสำหรับผู้สูงอายุ

          - ระหว่างที่ทำงานควรดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆไม่ต้องรอให้กระหายน้ำ

          - หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง

          - สวมใส่เสื้อสีอ่อน หลวม น้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี

          - ควรอยู่ในบ้านพัก อาคาร หรือสถานที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ

          - หากไม่มีเครื่องปรับอากาศควรเปิดพัดลมแบบส่ายอย่าเป่าพัดลมเข้าตัวโดยตรง และเปิดหน้าต่าง เพื่อระบายอากาศความร้อน

          - หากต้องออกกลางแจ้ง สวมหมวกปีกกว้าง ใส่แว่นกันแดด กางร่วม ทาครีมกันแดดที่มีค่า  SPF 15 ขึ้นไป อย่างน้อย 30 นาที ก่อนออกจากบ้าน

          - ระมัดระวัง การรับประทานยาบางชนิดที่อาจส่งผลให้ร่างกายสุญเสียน้ำและเกลือแร่ได้ง่ายขึ้น เช่น ยาลดความดันโลหิต ยาแก้คัดจมูก ยาขับปัสสาวะ ยารักษาโรคจิตและจิตเวช เป็นต้น

          - หากมีโรคประจำตัวที่แพทย์จำกัดปริมาณของเหลวในร่างกายควรสอบถามแพทย์ว่า ควรดื่มน้ำมากเท่าไหร่ในช่วงที่อากาศร้อน

          - หากมีอาการผิดปกติ เช่น หน้ามืด เวียนศรีษะ ปวดศรีษะ หรือสับสน คลื่นไส้ และหายใจเร็ว ให้รีบแจ้งบุคคลใกล้ชิดทันที หรือติดต่อ 1669

 

ที่มา : กองประเมินผลกระทบ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน